ข้ามไปเนื้อหา

การีม แบนเซมา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การีม แบนเซมา
แบนเซมาขณะเล่นให้กับเรอัลมาดริดใน ค.ศ. 2021
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม การีม ม็อสตาฟา แบนเซมา[1]
วันเกิด (1987-12-19) 19 ธันวาคม ค.ศ. 1987 (36 ปี)[2]
สถานที่เกิด ลียง ประเทศฝรั่งเศส
ส่วนสูง 1.85 เมตร (6 ฟุต 1 นิ้ว)[3]
ตำแหน่ง สไตรเกอร์
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
อัลอิตติฮาด
หมายเลข 9
สโมสรเยาวชน
1995–1997 Bron
1997–2005 ลียง
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2004–2006 ลียง เบ 20 (15)
2004–2009 ลียง 112 (43)
2009–2023 เรอัลมาดริด 439 (238)
2023– อัลอิตติฮาด 21 (9)
ทีมชาติ
2004 ฝรั่งเศส อายุต่ำกว่า 17 ปี 4 (1)
2004–2005 ฝรั่งเศส อายุต่ำกว่า 18 ปี 17 (14)
2005–2006 ฝรั่งเศส อายุต่ำกว่า 19 ปี 9 (5)
2006 ฝรั่งเศส อายุต่ำกว่า 21 ปี 5 (0)
2007–2022 ฝรั่งเศส 95 (37)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 22:33, 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 23:09, 3 มิถุนายน ค.ศ. 2022 (UTC)

การีม ม็อสตาฟา แบนเซมา (ฝรั่งเศส: Karim Mostafa Benzema; อาหรับ: ‎كريم بنزيما‎; เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1987) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวฝรั่งเศสที่เล่นเป็นกองหน้าให้แก่สโมสรอัลอิตติฮาดในซาอุดีโปรเฟสชันนัลลีก ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาล เขาเป็นกองหน้าตัวสร้างสรรค์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการทำประตู รวมถึงทักษะทางเทคนิค วิสัยทัศน์ และความเก่งกาจในสนาม[4][5][6] แบนเซมาคว้า 24 ถ้วยรางวัลกับเรอัลมาดริด รวมถึงลาลิกา 4 สมัย, โกปาเดลเรย์ 3 สมัย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5 สมัย เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาล เขาถือเป็นผู้เล่นที่ทำประตูให้แก่เรอัลมาดริดมากที่สุดเป็นอันดับสอง และทำแอสซิสต์ให้แก่สโมสรได้มากที่สุดตลอดกาล[7]

แบนเซมาเกิดที่ลียงโดยมีพ่อและแม่เป็นชาวแอลจีเรีย เขาเริ่มต้นอาชีพในทีมชุดใหญ่กับออแล็งปิกลียอแนใน ค.ศ. 2005 และพาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิงติดต่อกันสามสมัย และใน ค.ศ. 2008 เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของลีกฝรั่งเศส และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของลีกเอิง ก่อนจะได้รับรางวัลผู้ทำประตูสูงสุดในลีกเอิงใน ค.ศ. 2009 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกสี่สสมัยติดต่อกันรวมถึงแชมป์กุปเดอฟร็องส์ เขาย้ายไปร่วมทีมเรอัลมาดริดด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร ซึ่งถือเป็นสถิติการย้ายทีมของผู้เล่นชาวฝรั่งเศส และแม้จะประสบปัญหาในการปรับตัวในฤดูกาลแรก เขาก็พัฒนาตนเองและกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักในแนวรุกของทีมร่วมกับ คริสเตียโน โรนัลโด และ แกเร็ท เบล อันเป็นที่มาของฉายาสามประสาน "BBC" ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 4 สมัยระหว่าง ค.ศ. 2014–18

ภายหลังการย้ายทีมของโรนัลโด แบนเซมาได้เปลี่ยนบทบาทการเล่นจากตำแหน่งกองหน้าตัวหลอก (False 9) ไปเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่งผลให้ความโดดเด่นในการเล่นของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเขาได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของลาลิกาในฤดูกาล 2018–19, 2019–20, 2020–21 และ 2021–22 รวมทั้งรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของลาลิกาในฤดูกาล 2019–20 และรับรางวัลผูทำประตูสูงสุดของลาลิกาในฤดูกาล 2021–22 และจากการรับบทบาทเป็นกัปตันทีม รวมถึงผลงานโดดเด่นในการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2021–22 ส่งผลให้การแข่งขันในฤดูกาลนั้นได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดของประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลยุโรป ซึ่งแบนเซมายังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดและได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของรายการ

ในระดับทีมชาติ แบนเซมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติฝรั่งเศสรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ซึ่งชนะการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 ก่อนจะติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกใน ค.ศ. 2007 ด้วยวัย 19 ปี และลงแข่งขันให้ทีมชาติรวม 97 นัด รวมทั้งทำประตูได้ในการแข่งขันรายการเมเจอร์ (ฟุตบอลโลก และ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป) สามรายการ และลงแข่งขันอีกสี่รายการในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008, 2012 และ 2020 และฟุตบอลโลก 2014 ประตูแรกในนามทีมชาติของเขา เกิดขึ้นในเกมกระชับมิตรที่พบทีมชาติออสเตรีย ปัจจุบันแบนเซมาเป็นผู้เล่นที่ทำประตูมากที่สุดเป็นอันดับที่หกตลอดกาลของทีมชาติฝรั่งเศส แบนเซม่าถูกตัดออกจากทีมชาติชุดที่ไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 และจากกรณีปัญหาและเรื่องอื้อฉาวส่วนตัวใน ค.ศ. 2015 ส่งผลให้เขาไม่ได้ลงเล่นให้ทีมชาตินานถึงห้าปี ก่อนจะกลับมาลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 และประกาศเลิกเล่นทีมชาติหลังจบฟุตบอลโลก 2022 เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของฝรั่งเศสจากสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส 4 สมัย และคว้ารางวัลบาลงดอร์ 2022 โดยถือเป็นนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศสคนที่ห้าที่ได้รางวัล[8] และด้วยวัย 34 ปี และ 302 วัน เขาถือเป็นผู้เล่นที่มีอายุมากที่สุดเป็นอันดับสองที่ได้รับรางวัลนี้ต่อจากสแตนลีย์ แมตธิวส์[9]

เกียรติประวัติ

[แก้]

ออแล็งปิกลียอแน

[แก้]

เรอัลมาดริด

[แก้]

รางวัลส่วนตัว

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Acta del Partido celebrado el 20 de marzo de 2016, en Madrid" [Minutes of the Match held on 20 March 2016, in Madrid] (ภาษาสเปน). Royal Spanish Football Federation. สืบค้นเมื่อ 15 June 2019.[ลิงก์เสีย]
  2. "FIFA Club World Cup UAE 2017: List of players: Real Madrid CF" (PDF). FIFA. 16 December 2017. p. 5. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-12-01. สืบค้นเมื่อ 23 December 2017.
  3. "Real Madrid C.F. – Karim Benzema". Real Madrid C.F. สืบค้นเมื่อ 18 November 2017.
  4. "Ronaldo, Batistuta & the all-time best 'Number 9' strikers in football". Goal.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 28 February 2021.
  5. "The 30 greatest strikers of all time". 90min.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 25 May 2021. สืบค้นเมื่อ 23 June 2021.
  6. "Where does Karim Benzema rank among the best French strikers of all time?". Therealchamps.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 26 March 2022.
  7. Oyelabi, Stephen (2022-05-22). "Real Madrid Top Assists Of All Time [2022 List]". Soofootball (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  8. "Karim Benzema sacré Ballon d'Or France Football 2022". L'Équipe (ภาษาฝรั่งเศส).
  9. Starling, Mike; published, The Week UK (2022-10-18). "Karim Benzema's 'goal': Ballon d'Or, Champions League and a World Cup in one year?". theweek (ภาษาอังกฤษ).

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]